บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดโรงงาน ต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนรวมกว่า 200 คน เข้าเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์ และโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีวี กำลังการผลิต 50,000 แพ็คต่อปี และฐานการผลิตรถอีวีที่มีประสิทธิภาพ กับหมุดหมายสำคัญเพื่อเป็น “ฮับอีวี” สำหรับผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมตอกย้ำการเป็นแบรด์ผู้บุกเบิกและผู้นำอีวีตัวจริงของไทย ประเดิมเปิดตัว NEW MG4 ELECTRIC Thailand Edition ในฐานะรถอีวีคันแรกของ เอ็มจี ที่ผลิตในประเทศไทย
นายธนากร เสรีบุรี รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า “เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี และ เอ็มจี รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับ คณะรัฐมนตรี นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คณะผู้บริหารจากบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม หน่วยงานภาครัฐและเอกชนกว่า 200 ท่าน เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์- ซีพี จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ ซึ่งถือเป็นโรงงานที่ครบวงจรและมีความพร้อมในการผลิตทั้งรถยนต์เครื่องสันดาปภายในและรถยนต์พลังงานทางเลือก โดยมีกำลังการผลิตรวมสูงสุด 100,000 คันต่อปีเพื่อผลิตสำหรับประเทศไทย และส่งออกสู่ประเทศต่างๆ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของคลังอะไหล่ อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ทุกรุ่นที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย และล่าสุดได้พัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ภายในโรงงานฯ ให้เป็น NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK รองรับการขยายตัวของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นแบรนด์ผู้บุกเบิกและผู้นำที่มุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย”
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ เอ็มจี และจำหน่ายภายในประเทศไทย รวมทั้ง การส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยโรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ มีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 100,000 คันต่อปี ประกอบด้วย โรงงานประกอบตัวถัง (General Assembly Shop) โรงงานพ่นสีรถยนต์ (Paint Shop) โรงผลิตตัวถัง (Body Shop) ซึ่งไลน์ผลิตทั้งหมดประกอบไปด้วยเทคโนโลยีการติดตั้งหุ่นยนต์สำหรับใช้ในสายการผลิต เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพ และเสริมสร้าง ความปลอดภัยในสายการผลิต อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานและมลพิษต่างๆ เพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนอกจากไลน์การผลิตแล้วภายในพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นคลังจัดเก็บอะไหล่เพื่อรองรับรถยนต์ของเอ็มจี ทุกรุ่น
และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวีแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ HASCO-CP BATTERY SHOP ในภูมิภาคอาเซียนบนพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 75 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนการประกอบแบตเตอรี่ ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติที่ทันสมัยอย่างการนำหุ่นยนต์ (Robotic) เข้ามาช่วยในการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานที่แม่นยำ และส่วนการทดสอบมาตรฐานของแบตเตอรี่ กว่า 60 ขั้นตอน โดยในสายการผลิตแห่งนี้สามารถประกอบแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี ซึ่งแบตเตอรี่ที่ประกอบในประเทศไทยและเป็นมาตรฐานเดียวกับสายการผลิตระดับโลก
เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย ทั้งรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าอย่าง MG ZS EV ที่เป็นผู้จุดประกายความนิยมรถไฟฟ้าในไทย รถสเตชันวากอน พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์แต่ใช้งานได้หลากหลายอย่าง MG EP และ MG ES รถแฮทช์แบคพลังงานไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังอย่าง NEW MG4 ELECTRIC และรถลักชัวรี่ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ขุมพลังไฟฟ้า 100% อย่าง NEW MG MAXUS 9 รวมถึงการลงทุนเพื่อขยายความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จไฟแบบไว หรือ MG SUPER CHARGE ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาแบตเตอรี่อีวีภายในประเทศไทยได้เป็นผลสำเร็จแล้วนั้น เอ็มจี ยังถือเป็นแบรนด์แรกๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสายการผลิตภายในประเทศ โดยประเดิมคันแรกของประเทศไทย ด้วยรถ NEW MG4 ELECTRIC Thailand Edition ซึ่งจะเป็นรุ่นแรกที่เตรียมผลิตเพื่อจัดจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนการผลิตที่แยกออกมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้เป้าหมายใหญ่ในการเป็น “ฮับอีวี” ของ เอ็มจี ในภูมิภาคอาเซียน
“ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของตลาดอีวีในไทย เอ็มจี จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการยกระดับอุสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้สามารถเทียบชั้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก โดยจะมุ่งมั่นในการพัฒนาทุกมิติและองค์ประกอบของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมและครบวงจร เพื่อให้ประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มขั้น พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของ เอ็มจี ได้ที่ bit.ly/NewMG4Electric_” นายธนากร กล่าว